
หัวหิน เมืองตากอากาศยุคแรก
เมื่อปี พ.ศ. 2377 ต้นสมัยรัชกาลที่ 3 ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งจากเมืองเพชรบุรีได้อพยพหนีความอดอยากลงมาทางใต้ จนมาถึงบริเวณบ่อฝ้าย หนองสะแก และเขาตะเกียบ ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ มีแม่น้ำลำคลองไหลผ่าน ชาวบ้านเหล่านั้นจึงลงหลักปักฐานสร้างบ้านเรือนและทำประมงเป็นอาชีพหลัก ต่อมามีชาวปักษ์ใต้ ได้แก่ ชาวภูเก็ต พัทลุง และ ตรัง ย้ายถิ่นฐานมาอาศัยอยู่ด้วย ทำให้ชุมชนขยายตัวใหญ่ขึ้น เป็นชุมชนผสมระหว่างคนภาคกลางและคนภาคใต้ มีภาษาพูดและสำเนียงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เรียกว่าบ้านสมอเรียง ตั้งอยู่ใกล้กับคลองสมอเรียง เนื่องจากบริเวณนี้มีแนวโขดหินใหญ่น้อยเรียงรายไปตามแนวชายฝั่ง จึงมีการเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านตามลักษณะภูมิศาสตร์ว่า บ้านหินเรียง ต่อมาได้กลายเป็นบ้านแหลมหิน และบ้านหัวหินในที่สุด
หัวหินเริ่มเป็นที่รู้จักในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองและระบบงานราชการ ได้มีการกำหนดให้วันจันทร์ถึงวันศุกร์เป็นวันทำงาน ส่วนวันเสาร์และวันอาทิตย์เป็นวันหยุดพักผ่อน ด้วยภาระหน้าที่การงานที่หนักอึ้ง ทำให้เจ้านายและขุนนางนิยมใช้ช่วงเวลาวันหยุดสุดสัปดาห์ไปพักตากอากาศตามอย่างชาวตะวันตก เชื่อกันว่าอากาศชายทะเลจะทำให้มีสุขภาพแข็งแรง ทำให้หายเหนื่อยล้า และได้พักผ่อนเต็มที่ เมื่อกรมรถไฟหลวง ได้เปิดเส้นทางรถไฟสายใต้ผ่าน ต.หัวหิน ทำให้การเดินทางสะดวก มีผู้คนมาเยือนมากขึ้น ชื่อเสียงความงดงามของชายหาดสีขาวสลับกับโขดหินที่เรียงรายอยู่ริมฝั่งก็โด่งดังขึ้น และยิ่งมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นเมื่อพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศร์วรฤทธิ์ทรงสร้างพระตำหนักสุขเวศน์เป็นที่ประทับแรม พร้อมทั้งยังได้เชิญชวนพระประยูรญาติมาสร้างบ้านพักตามอากาศที่ชายหาดหัวหิน
แม้สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชชนนี พระพันปีหลวง ก็ทรงสร้างพระตำหนักประทับแรมที่นี่เช่นกัน เมื่อมีพระราชวงศ์ชั้นสูงเสด็จประทับตากอากาศที่หัวหินมากขึ้น จึงมีการสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น การตัดถนนหนทางใน ต.หัวหิน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง ถนนสายแรกๆที่สร้างขึ้นคือ ถ.กำเนิดวิถี ถ.ดำเนินเกษม ซึ่งตัดจากสถานีรถไฟมายังพระตำหนักของสมเด็จพระพันปีหลวง และ ถ. นเรศดำริ ซึ่งเป็นถนนเลียบชายทะเล ถนนนี้สร้างเป็นที่ระลึกแก่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศร์วรฤทธิ์ ผู้นำความเจริญมาสู่เมืองนี้
เมื่อปี พ.ศ. 2377 ต้นสมัยรัชกาลที่ 3 ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งจากเมืองเพชรบุรีได้อพยพหนีความอดอยากลงมาทางใต้ จนมาถึงบริเวณบ่อฝ้าย หนองสะแก และเขาตะเกียบ ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ มีแม่น้ำลำคลองไหลผ่าน ชาวบ้านเหล่านั้นจึงลงหลักปักฐานสร้างบ้านเรือนและทำประมงเป็นอาชีพหลัก ต่อมามีชาวปักษ์ใต้ ได้แก่ ชาวภูเก็ต พัทลุง และ ตรัง ย้ายถิ่นฐานมาอาศัยอยู่ด้วย ทำให้ชุมชนขยายตัวใหญ่ขึ้น เป็นชุมชนผสมระหว่างคนภาคกลางและคนภาคใต้ มีภาษาพูดและสำเนียงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เรียกว่าบ้านสมอเรียง ตั้งอยู่ใกล้กับคลองสมอเรียง เนื่องจากบริเวณนี้มีแนวโขดหินใหญ่น้อยเรียงรายไปตามแนวชายฝั่ง จึงมีการเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านตามลักษณะภูมิศาสตร์ว่า บ้านหินเรียง ต่อมาได้กลายเป็นบ้านแหลมหิน และบ้านหัวหินในที่สุด
หัวหินเริ่มเป็นที่รู้จักในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองและระบบงานราชการ ได้มีการกำหนดให้วันจันทร์ถึงวันศุกร์เป็นวันทำงาน ส่วนวันเสาร์และวันอาทิตย์เป็นวันหยุดพักผ่อน ด้วยภาระหน้าที่การงานที่หนักอึ้ง ทำให้เจ้านายและขุนนางนิยมใช้ช่วงเวลาวันหยุดสุดสัปดาห์ไปพักตากอากาศตามอย่างชาวตะวันตก เชื่อกันว่าอากาศชายทะเลจะทำให้มีสุขภาพแข็งแรง ทำให้หายเหนื่อยล้า และได้พักผ่อนเต็มที่ เมื่อกรมรถไฟหลวง ได้เปิดเส้นทางรถไฟสายใต้ผ่าน ต.หัวหิน ทำให้การเดินทางสะดวก มีผู้คนมาเยือนมากขึ้น ชื่อเสียงความงดงามของชายหาดสีขาวสลับกับโขดหินที่เรียงรายอยู่ริมฝั่งก็โด่งดังขึ้น และยิ่งมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นเมื่อพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศร์วรฤทธิ์ทรงสร้างพระตำหนักสุขเวศน์เป็นที่ประทับแรม พร้อมทั้งยังได้เชิญชวนพระประยูรญาติมาสร้างบ้านพักตามอากาศที่ชายหาดหัวหิน

ในยุคที่เจ้านายและเชื้อพระวงศ์มาพักตากอากาศที่หัวหินนั้นทำให้หัวหินเป็นเมืองที่ได้รับความเจริญถึงขีดสุด ทั้งทางด้านการคมนาคม การปกครอง การศึกษา การสาธารณสุข และการค้า มีการสร้างโฮเต็ลหัวหิน ซึ่งเป็นโรงแรมที่หรูหราและทันสมัยเฉกเช่น โรงแรมชั้นหนึ่งในเมืองกรุง แขกที่มาใช้บริการส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ นอกจากนี้ยังมีการสร้างสนามกอล์ฟที่ออกแบบก่อสร้างได้ตรงตามมาตรฐานสากล และมีชื่อเสียงที่สุดในเอเชียอาคเนย์
ในยุคที่เจ้านายและเชื้อพระวงศ์มาพักตากอากาศที่หัวหินนั้นทำให้หัวหินเป็นเมืองที่ได้รับความเจริญถึงขีดสุด ทั้งทางด้านการคมนาคม การปกครอง การศึกษา การสาธารณสุข และการค้า มีการสร้างโฮเต็ลหัวหิน ซึ่งเป็นโรงแรมที่หรูหราและทันสมัยเฉกเช่น โรงแรมชั้นหนึ่งในเมืองกรุง แขกที่มาใช้บริการส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ นอกจากนี้ยังมีการสร้างสนามกอล์ฟที่ออกแบบก่อสร้างได้ตรงตามมาตรฐานสากล และมีชื่อเสียงที่สุดในเอเชียอาคเนย์ หัวหินเจริญที่สุดเมื่อพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างวังไกลกังวลเป็นสถานที่เสด็จแปรพระราชฐาน หัวหินกลายเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีการก่อสร้างตลาดฉัตรไชยเพื่อเป็นแหล่งขายของกินของใช้
จัดเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นอย่างถูกสุขลักษณะ ตลาดแห่งนี้กลายเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ของชาวกรุงที่มาพักผ่อน กล่าวได้ว่า หัวหินในยุคนั้นเป็นแหล่งรวมคนดังของประเทศไทย และเป็นแหล่งรวมแฟชั่นชุดเดินชายหาดอีกด้วย
หัวหินเงียบเหงาลงไปถนัดตาเมื่อคณะราษฏรเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศในปี พ.ศ. 2475 เมื่อบ้านเมืองกลับมาอยู่ในความสงบเรียบร้อย ชาวกรุงกลับมาเที่ยวที่หัวหินอีกครั้ง แต่ต่างจากอดีตที่มีชนชั้นกลางมาพักที่หัวหินมากกว่าในยุคแรกๆ หัวหินคึกคักมากกว่าเดิมหลายเท่า กล่าวกันว่าคนกรุงในยุคนั้น ถ้าไม่ได้ไปเที่ยวหัวหิน จัดว่าเป็นคนล้าสมัยทีเดียว..

หัวหินเงียบเหงาลงไปถนัดตาเมื่อคณะราษฏรเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศในปี พ.ศ. 2475 เมื่อบ้านเมืองกลับมาอยู่ในความสงบเรียบร้อย ชาวกรุงกลับมาเที่ยวที่หัวหินอีกครั้ง แต่ต่างจากอดีตที่มีชนชั้นกลางมาพักที่หัวหินมากกว่าในยุคแรกๆ หัวหินคึกคักมากกว่าเดิมหลายเท่า กล่าวกันว่าคนกรุงในยุคนั้น ถ้าไม่ได้ไปเที่ยวหัวหิน จัดว่าเป็นคนล้าสมัยทีเดียว..
ที่มา: หนังสือชุด "นายรอบรู้" นักเดินทาง : ประจวบคีรีขันธ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น